รับทำแผนการตลาด
แผนการตลาด marketing plan รับเขียนแผนการตลาด รับทำแผนการตลาด ธุรกิจ sme SMEs เอสเอ็มอี Franchise แฟรนไชส์ แผนธุรกิจ business plan แผนการตลาด ดาวน์โหลดธุรกิจ download ตัวอย่าง แผนธุรกิจ บริการ รับเขียนแผนธุรกิจ รับทำแผนธุรกิจ แผนธุรกิจ รู้ลึก รู้จริง เรื่อง แผนธุรกิจ แผนการตลาด แผนการเงิน แผนการลงทุน การเริ่มต้นธุรกิจ การจัดตั้งธุรกิจ การวางแผนธุรกิจ ที่ 1 เรื่อง แผนธุรกิจ
แผนการตลาด marketing plan รับเขียนแผนการตลาด รับทำแผนการตลาด ธุรกิจ sme SMEs เอสเอ็มอี Franchise แฟรนไชส์ แผนธุรกิจ business plan แผนการตลาด ดาวน์โหลดธุรกิจ download ตัวอย่าง แผนธุรกิจ บริการ รับเขียนแผนธุรกิจ รับทำแผนธุรกิจ แผนธุรกิจ รู้ลึก รู้จริง เรื่อง แผนธุรกิจ แผนการตลาด แผนการเงิน แผนการลงทุน การเริ่มต้นธุรกิจ การจัดตั้งธุรกิจ การวางแผนธุรกิจ ที่ 1 เรื่อง แผนธุรกิจ
เราคือผู้ให้ บริการงานที่ปรึกษา (Consultant) ที่ลูกค้าไว้วางใจในบริการของเราเป็นอย่างดี ด้วยทีมบุคลากรที่มีคุณภาพและเปี่ยมไปด้วย ประสบการณ์ มายาวนานกว่า 15 ปี เพราะเรารู้ว่าธุรกิจของท่าน ต้องดำเนินต่อไปได้ โดยไม่มีปัญหา เราพร้อมที่จะเป็นพลังเพื่อผลักดันธุรกิจของคุณให้ก้าวไปสู่เป้าหมายที่คุณหวังไว้ และประสบความสำเร็จได้ในอนาคต ด้วยเราเข้าใจดีว่า การวาง แผนธุรกิจ ของท่าน มีความสำคัญต่อธุรกิจเพียงใด เราจึงให้ความสำคัญกับลูกค้าทุกๆ รายที่ขอคำปรึกษาธุรกิจ กับเรา เราได้ตั้งอุดมการณ์ ในการทำงานด้วยความทุ่มเทและเอาใจใส่กับงานบริการของเรา ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ผ่านมา มากมายหลากหลายธุรกิจ เราได้ร่วมแรงร่วมใจที่จะสร้างสรรค์งานบริการ อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ท่านได้แน่ใจว่าธุรกิจของท่านจะได้รับบริการอย่างเต็มประสิทธิภาพตามที่ท่านต้องการ ดังนั้นเราจึงพร้อมให้บริการ หากท่านเชื่อมั่นและต้องการใช้บริการจากเรา
โครงสร้างการเขียนแผนการตลาด จะประกอบไปด้วย
1. บทสรุปสำหรับผู้บริหารและเนื้อหาของแผน
(executive summary) เป็นการสรุป 2-3 หน้า เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของบริษัท
และอธิบายแผนการตลาด ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่บริษัทเสนอขาย ตลาดเป้าหมายของบริษัท
ระดับการขายและกำไรที่คาดว่าจะได้ และใครเป็นคู่แข่งขัน ตลอดจนกำหนดส่วนผสมทางการตลาดและกลยุทธ์
ผู้บริหารระดับสูงมักอ่านส่วนนี้ก่อน
ถ้าอ่านแล้วไม่สนใจก็จะไม่อ่านแผนส่วนที่เหลือ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก
2. การวิเคราะห์สถานการณ์ทางการตลาดในปัจจุบัน
(current marketing situation) เป็นการนำเสนอข้อมูลภูมิหลังของตลาด ผลิตภัณฑ์
คู่แข่งขัน การจัดจำหน่าย และสิ่งแวดล้อมมหภาค เช่น
2.1 สถานการณ์ด้านตลาด
เป็นการนำเสนอข้อมูลของตลาดเป้าหมาย ขนาด และความเติบโตของตลาด
มีการแสดงให้เห็นตัวเลข
หลายปีที่ผ่านมาและยังมีข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้า การรับรู้
และแนวโน้มพฤติกรรมการซื้อ
2.2 สถานการณ์ด้านผลิตภัณฑ์
เป็นการนำเสนอยอดขายสินค้า (ในรูปจำนวนหน่วยและจำนวนเงิน) ในหลายปีที่ผ่านมา ราคา
กำไรขั้นต้น และกำไรสุทธิ
2.3 สถานการณ์ด้านการแข่งขัน
เป็นการระบุคู่แข่งขันรายสำคัญ (คู่แข่งขันทางตรง คู่แข่งขันทางอ้อม)
ขนาดคู่แข่งขัน เป้าหมาย ส่วนครองตลาด จุดแข็งจุดอ่อน คุณภาพผลิตภัณฑ์
กลยุทธ์ทางการตลาด และพฤติกรรมของคู่แข่งขัน
2.4 สถานการณ์ด้านการจัดจำหน่าย
เป็นการเสนอข้อมูลเกี่ยวกับขนาด และความสำคัญของช่องทางจำหน่ายแต่ละช่องทาง
2.5 สถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมมหภาค
เป็นการอธิบายแนวโน้มของสิ่งแวดล้อมมหภาคอย่างกว้าง ๆ เช่น ประชากรศาสตร์ เศรษฐกิจ
เทคโนโลยี การเมือง กฎหมาย
สังคมและวัฒนธรรมซึ่งสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ถือว่าเป็นโอกาสและอุปสรรคต่อการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด
3. การวิเคราะห์ SWOT (SWOT
Analysis) เป็นการระบุถึงจุดแข็ง
จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค ที่กระทบต่อสายผลิตภัณฑ์
3.1 จุดแข็ง (strengths) เป็นความแข็งแกร่งที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมภายใน
เช่น จุดแข็งด้านส่วนประสมการตลาด / การเงิน / การผลิต / บุคลากร / การบริหารงาน
และการจัดองค์กร
3.2 จุดอ่อน (weakness) เป็นปัญหาที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมภายในด้านต่าง
ๆ ของบริษัท บริษัทจะต้องหาวิธีการแก้ปัญหานั้น
3.3 โอกาส (opportunities) เป็นข้อได้เปรียบซึ่งวิเคราะห์จากสิ่งแวดล้อมภายนอกที่บริษัทแสวงหาโอกาสเพื่อมากำหนดกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมนั้น
ประกอบด้วย สิ่งแวดล้อมจุลภาค (ลูกค้า คู่แข่ง ผู้ผลิต คนกลาง)
และสิ่งแวดล้อมมหภาค (ประชากรศาสตร์ เศรษฐกิจ เทคโนโลยี สังคมวัฒนธรรม การเมือง
กฎหมายทรัพยากรธรรมชาติ)
3.4 อุปสรรค (threats) เป็นอุปสรรคที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมภายนอก
ซึ่งธุรกิจจำเป็นต้องกำหนดกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องและแก้ปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้น
4. การกำหนดวัตถุประสงค์ทางการตลาด (marketing
objective) เป็นการตัดสินใจกำหนดวัตถุประสงค์ของแผนการตลาด
สามารถกำหนดได้ 2 ลักษณะ คือ
4.1 วัตถุประสงค์ด้านการเงิน (financial
objective) เช่น
ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนของตลาดเป้าหมาย 20% ต้องการกำไรสุทธิ 10 ล้านบาทในปี 2548 ต้องการส่วนครองตลาด 30% ในปี 2550 เป็นต้น
4.2 วัตถุประสงค์ด้านการตลาด (marketing
objective) เช่น
วัตถุประสงค์ในการขาย การวางตำแหน่งเพื่อการแข่งขัน สร้างความภักดีในตราสินค้า
สร้างการรับรู้ในตราสินค้าจาก 15% เป็น 30% เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายอีก 20% เป็นต้น
5. การกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด (marketing
strategy)
5.1 STP Marketing
การแบ่งส่วนตลาด (Segmentation)
รูปแบบการแบ่งส่วนตลาด ความชอบเหมือนกัน /
กระจัดกระจาย / เกาะกลุ่ม
เกณฑ์การแบ่งส่วนตลาด เกณฑ์ภูมิศาสตร์ /
ประชากรศาสตร์ / ลักษณะจิตวิทยา / พฤติกรรม
การกำหนดตลาดเป้าหมาย (Targeting)
ภาพรวมกลุ่มตลาดเป้าหมาย
พฤติกรรมผู้บริโภค
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายรอง
การวางตำแหน่ง (Positioning)
การวางตำแหน่งจากลักษณะ (Positioning by
Attribute) ผูกสินค้ากับลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง
เช่น ลักษณะสินค้าเชื่อถือได้ ปฏิบัติงานได้ดี
การวางตำแหน่งจากคุณประโยชน์ (Positioning
by Benefits) ผูกสินค้ากับคุณประโยชน์พิเศษที่ลูกค้าจะได้รับ
การวางตำแหน่งจากการใช้ (Positioning by
Use)
การวางตำแหน่งโดยอิงผู้ใช้ (Positioning
by User)
การวางตำแหน่งโดยอิงคู่แข่งขัน (Positioning
by Competitor)
การวางตำแหน่งจากคุณภาพ/ราคา (Positioning
by Quality/price)
5.2 Marketing Mix
กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ การกำหนดตราสินค้า (Brand)
คำขวัญ
(Slogan) โลโก้
(Logo) บรรจุภัณฑ์
(Packaging) ฉลาก (Label)
กลยุทธ์ราคา การกำหนดวัตถุประสงค์ นโยบาย
และกลยุทธ์การตั้งราคา
กลยุทธ์การจัดจำหน่าย
การกำหนดช่องทางการจัดจำหน่าย (ช่องทางตรง ช่องทางอ้อม) ประเภทคนกลางและการควบคุมคนกลาง
การปรับปรุงช่องทางการจัดจำหน่าย และการกระจายสินค้า (การขนส่ง การคลังสินค้า
การควบคุมสินค้าคงเหลือ เป็นต้น)
กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด การโฆษณา (สื่อโฆษณา
งบประมาณการโฆษณา ฯลฯ) การประชา-สัมพันธ์ (การให้ข่าว การจัดเหตุการณ์พิเศษ
กิจกรรมบริการชุมชน ฯลฯ) การขายโดยบุคคล (การกำหนดค่าตอบแทน การจูงใจ การควบคุม
การประเมินผล ฯลฯ) การส่งเสริมการขาย (มุ่งสู่ผู้บริโภค มุ่งสู่คนกลาง
มุ่งสู่พนักงานขาย) และการตลาดทางตรง (จดหมายตรง การตลาดทางโทรศัพท์
การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น)
6. โปรแกรมเกี่ยวกับการปฏิบัติ (Action
Program)
เป็นการแสดงว่าแผนการตลาดนั้นจะมีโปรแกรมการตลาดที่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างไร
วัตถุประสงค์ : กลยุทธ์ทางการตลาด : ปฏิบัติการ : ยุทธวิธีต่าง ๆ
ที่ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ใช้กับตลาดเป้าหมาย การปฏิบัติต้องตอบคำถามว่าจะทำอะไร?
จะทำเมื่อใด?
ใครเป็นคนทำ?
ต้นทุนที่จะจ่ายเท่าไร?
ผู้รับผิดชอบ
: ฝ่ายที่ต้องดำเนินการ
7. งบกำไรขาดทุนโดยประมาณการ (Projected
Profit-and-Loss Statements) เป็นการสร้างงบประมาณสนับสนุนแผนการตลาด
งบประมาณนี้แสดงยอดที่ได้จากการพยากรณ์ กำหนดเป็นหน่วยที่ขายได้โดยประมาณและราคาโดยเฉลี่ย
การคาดคะเนงบกำไรขาดทุนนี้จะเป็นแนวทางให้ ทราบว่ารายได้
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดเป็นเท่าใด
ข้อมูลเหล่านี้เป็นแนวทางในการวางแผนและการตัดสินใจลงทุน
8. การควบคุม (Controls) เป็นส่วนสุดท้ายของแผนการตลาด
เป็นการตรวจสอบความก้าวหน้าของแผนวัดผลการทำงานทางการตลาดโดย
ใช้การวิเคราะห์ยอดขาย กำไร ส่วนครองตลาด ฯลฯ บางบริษัทอาจบรรจุแผนฉุกเฉิน (Emergency
Plan) ไว้ด้วยเพื่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น
เช่น การประท้วงหยุดงาน หรือ การเกิดสงครามราคา วัตถุประสงค์ของการกำหนดแผนฉุกเฉิน
เพื่อกระตุ้นให้ผู้จัดการคำนึงถึงอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตล่วงหน้า
การควบคุมแผนการตลาดประจำปี
ติดต่อเราได้ที่ email : smesplannet@gmail.com แล้วเราจะรีบติดต่อท่านโดยเร็วที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นการส่งคำถาม ขอคำปรึกษาธุรกิจ หรือสอบถามเบื้องต้น เกี่ยวกับการทำ
แผนธุรกิจ เรายินดีให้ความกระจ่างแก่คุณๆ ทุกท่าน หรือฝากคำถามมาได้ที่นี่ที่เดียว
เท่านั้น แล้วท่านจะรู้ว่า เรื่องธุรกิจ ไม่ยากอย่างที่คิด
ที่นี่มีคำตอบให้กับทุกคำถาม
หรือเข้าชมเว็บไซต์ได้ที่ www.smesplannet.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น